เกาหลีใต้เผยแผนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งมูลค่า 48.5 ล้านล้านวอน หรือ 4.3 หมื่นล้านสหรัฐ (ประมาณ 1.27 ล้านล้านบาท) ที่ใหญ่ที่สุด และจะเสร็จภายในปี 2030
แผนนี้เป็นหนึ่งในความพยายามที่จะฟื้นฟูประเทศอย่างเป็นมิตรต่อโลก หลังจากพิษโควิด-19 เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย “Green New Deal” ของประธานาธิบดี Moon Jae-in ที่เริ่มต้นเมื่อปีที่แล้ว
“Green New Deal” ตั้งขึ้นเพื่อลดการพึ่งพาการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ของประเทศที่ที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสี่ของเอเชียนี้
ประธานาธิบดี Moon เข้าร่วมพิธีลงนามสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เมือง Sinan เมืองริมทะเลทางตะวันตกเฉียงใต้ ที่อนาคตจะผลิตไฟฟ้าได้อย่างมาก 8.2 กิกะวัตต์
“ด้วยโครงการนี้ เราจะเร่งเครื่องสู่หลังงานที่เป็นมิตรต่อโลก และขับเคลื่อนกันอย่างแข็งแกร่งสู่เป้าหมายคาร์บอนเป็นศูนย์” Moon เผย
ณ พิธีเปิดงาน บริษัทวิศวกรที่ดูแลด้านพลังงานอย่าง Korea Electric Power Corp, SK E&S, Hanwha Engineering & Construction Corp, Doosan Heavy Industries & Construction Co., และ CS Wind Corp and Samkang M&T Co ต่างเข้าร่วม และทั้งหมดจะร่วมสนับสนุนโครงการดังกล่าวรวมทั้งสิ้นกว่า 47.6 ล้านล้านวอน ส่วนรัฐบาลจะสนับสนุนส่วนที่เหลือ 0.9 ล้านล้านวอน
โปรเจคนี้นอกจากจะพาเกาหลีใต้สู่วิถีพลังงานสะอาด มีพลังงานลม 16.5 กิกะวัตต์ภายในปี 2030 จากตอนนี้ที่มี 1.67 แล้ว ก็ยังจะสร้างงานกว่า 5,600 งาน
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า พลังงานที่คาดว่าจะได้ในอนาคต 8.2 กิกะวัตต์ ถ้าเป็นเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์จะต้องใช้เครื่องจำนวน 6 เครื่อง หรือเท่ากับผลกระทบจากการปลูกต้นสน 71 ล้านต้น
นอกจากเกาหลีใต้ ในปัจจุบันยังมีฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งอีกที่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นั่นก็คือ Hornsea 1 ในประเทศอังกฤษ ซึ่งมีกำลังการผลิต 1.12 กิกะวัตต์
Source
1. https://www.reuters.com/article/us-southkorea-energy-windfarm/south-korea-unveils-43-billion-plan-for-worlds-largest-offshore-wind-farm-idUSKBN2A512D
เรียบเรียง: DJ