หลักคิดง่าย ๆ ในการเลือกซื้อกล้องวงจรปิด

ไม่ต้องเป็นช่างก็เลือกซื้อกล้องวงจรปิดได้ด้วยตัวเอง

Share

Loading

ปัจจุบันกล้องวงจรปิดถือเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการสร้างหลักประกันความมั่นคงและปลอดภัยให้กับชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งเราจะพบเห็นการติดตั้งกล้องวงจรปิดในเกือบทุกสถานที่ เช่น ห้างร้าน อาคารพาณิชย์ สถานศึกษา สถานพยาบาล หรือแม้กระทั่งที่อยู่อาศัยส่วนบุคคล เป็นต้น

แต่เคยสงสัยไหมว่าการเลือกกล้องวงจรปิดมาใช้นั้นจะต้องพิจารณาอย่างไร เนื่องจากในปัจจุบันนี้มีสินค้าประเภทกล้องวงจรปิดผลิตออกมาให้เราได้เลือกซื้อหากันอย่างมากมายหลากหลายแบรนด์ และหลากหลายราคา และในฐานะที่เราไม่ใช่ช่างที่มีความรู้ในเชิงลึก เราจะสามารถเลือกซื้อกล้องวงจรปิดได้อย่างไร

ดังนั้น Security Systems Magazine จึงขอแนะนำวิธีการเลือกซื้อกล้องวงจรปิดเบื้องต้น ให้กับผู้ที่สนใจได้ลองศึกษาและนำเอาหลักการเหล่านี้มาเป็นแนวทางในการพิจารณาเลือกซื้อกล้องวงจรปิดมาใช้งานต่อไป

การตัดสินใจเลือกซื้อกล้อง

เนื่องจากว่าในปัจจุบันมีสินค้าประเภทกล้องวงจรปิดอยู่หลากหลาย โดยจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของราคา และคุณลักษณะของสินค้าแต่ละชนิดก็แตกต่างกันด้วย ดังนั้น วิธีการเริ่มต้นที่ง่ายที่สุดสำหรับการตัดสินใจเลือกซื้อกล้องวงจรปิด ก็คือการกำหนดงบประมาณที่เรามีเอาไว้ก่อน โดยดูว่าเราจะใช้งบประมาณอยู่ที่ราว ๆ กี่บาท และหลังจากนั้นก็ให้เราเปรียบเทียบคุณลักษณะของกล้องวงจรปิดซึ่งอยู่ในขอบเขตของเราคาที่เราตั้งเอาไว้ โดยดูว่างบประมาณเท่านี้ จะมีกล้องแบบไหนบ้างที่ขายกันอยู่ในท้องตลาด เมื่อเราตีวงแคบเข้ามาได้แล้ว ต่อไปก็ให้เราเลือกกล้องที่คิดว่าตอบโจทย์การใช้งานของเราให้ได้มากที่สุด ดังนี้

  • สถานที่ติดตั้ง ให้พิจารณาว่าเราติดกล้องที่ไหน ติดภายในหรือภายนอกอาคาร ซึ่งกล้องที่ออกแบบมาให้ติดตั้งภายในและภายนอกจากมีคุณลักษณะที่แตกต่างกันไปในแง่ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม อุณหภูมิ แดด ฝน เป็นต้น
  • แหล่งพลังงาน ถือว่ามีความสำคัญต่อระบบการทำงานของกล้องวงจรปิด เนื่องจากแหล่งพลังงานจะทำให้กล้องวงจรปิดสามารถทำงานได้ ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องดูว่าจะใช้แหล่งพลังงานแบบไหน เช่น ไฟฟ้า แบตเตอรี่ พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น
  • จำนวนกล้อง จะต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับขนาดและลักษณะของพื้นที่ ตามโจทย์และเป้าหมายด้านความปลอดภัยที่เราได้วางเอาไว้
  • ระยะทางในการติดตั้ง จะเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ต้องนำมาพิจารณาร่วม เนื่องจากจะเกี่ยวเนื่องกับการเลือกคุณลักษณะที่สำคัญต่อมา นั้นก็คือจะเลือกกล้องวงจรปิดแบบเดินสาย หรือแบบไร้สาย

กล้องวงจรปิดแบบเดินสาย VS กล้องวงจรปิดแบบไร้สาย

กล้องวงจรปิดแบบเดินสายและกล้องวงจรปิดแบบไร้สาย คือประเภทกล้องวงจรปิดแบบกว้าง ๆ ที่เราสามารถพบเห็นได้โดยทั่วไปในท้องตลาด ซึ่งถือเป็นกล้องวงจรปิดที่มีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกัน ดังนี้

กล้องวงจรปิดแบบเดินสาย

ข้อดี

  1. สัญญาณมีความเสถียร การตรวจเช็คและบำรุงรักษาสามารถทำได้ง่าย เพราะกล้องทุกตัวจะต้องเชื่อมไปยังกล่องควบคุมและจุดกำเนิดพลังงาน ดังนั้น ถ้ากล้องดับ เราสามารถตรวจเช็คได้ง่าย ๆ ว่าเป็นที่สายไฟฟ้าขาด หรือสัญญาณภาพขาด
  2. คลื่นรบกวนน้อย โดยเฉพาะสายที่ออกแบบมาโดยมีวัสดุห่อหุ้มที่ป้องกันสัญญาณรบกวน
  3. อายุการใช้งานคงทน ถ้าหากมีการเดินสายอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะเดินสายแบบผ่านท่อ ซึ่งจะสามารถยืดอายุการใช้งานของสายได้ยาวนาน 10 – 20 ปีเลยทีเดียว
  4. ในการติดตั้งกล้องที่มีระยะทางไกลมาก ๆ การเดินด้วยสายถือว่ามีความเหมาะสม เพราะสามารถที่จะเดินสายได้ในระยะไกล 50 – 100 หรือถ้าหากเป็นสาย Fiber Optic จะสามารถเดินสายได้ไกลเป็นกิโลเมตรเลยทีเดียว

ข้อด้อย

  1. มีค่าใช้จ่ายในส่วนของการลากสายไปยังอุปกรณ์เพื่อเชื่อมต่อกับระบบต่าง ๆ ซึ่งถ้าหากระยะทางยิ่งไกล ก็แปลว่าจะต้องใช้สายที่ยาวขึ้น และจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินสายที่เพิ่มมากขึ้น
  2. ในการติดตั้งจำเป็นที่จะต้องมีความรู้ความชำนาญในการวางระบบ ไม่ว่าจะเป็นการเดินสายสัญญาณ การติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ถ้าหากเราไม่มีความชำนาญเช่นนั้น ก็จำเป็นที่จะต้องมีช่างมาเป็นผู้ติดตั้งให้
  3. การย้ายจุดติดตั้งทำได้ยาก เพราะการย้ายจุดติดตั้งจะหมายถึงการที่ต้องเดินสายใหม่ด้วย เนื่องจากกล้องทั้งหมดจะต้องเชื่อมโยงด้วยสายสัญญาณ
  4. ในแง่ความสวยงาม กล้องวงจรปิดแบบเดินสายอาจจะดูรกหูรกตา โดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งติดตั้งกล้องเป็นจำนวนมาก ๆ หลายร้อยตัว เราจะเห็นได้ว่ามีสายเป็นร้อย ๆ เส้นต้องถูกโยงมาที่กล่องควบคุม

กล้องวงจรปิดแบบไร้สาย

ข้อดี

  1. ติดตั้งได้ง่าย เพราะเป็นกล้องที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป ที่เราสามารถไปซื้อมาเสียบปลั๊ก เซ็ตระบบนิดหน่อย แล้วใช้งานได้เลย
  2. การย้ายจุดติดตั้งทำได้ง่าย เพราะไม่ต้องมีการเดินสัญญาณจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง เนื่องจากเป็นการส่งสัญญาณด้วยระบบไร้สาย
  3. ค่าใช้จ่ายถูกลง เพราะไม่ว่าจะเป็นการซื้อสายสัญญาณ รวมไปถึงการไม่ต้องจ้างช่างที่ชำนาญการมาเป็นคนวางระบบให้

ข้อเสีย

  1. คุณภาพสัญญาณรวมไปถึงความเสถียรอาจจะลดลงได้ ตามสภาพปัจจัยแวดล้อม เช่น ฝนตก ฟ้าร้อง พายุเข้า เป็นต้น
  2. แม้จะติดตั้งได้ง่าย แต่ผู้ใช้งานควรจะมีความรู้พื้นฐานด้าน Network เพราะการตั้งค่าต่าง ๆ ตามคู่มือจะต้องอาศัยความเข้าใจในระดับหนึ่ง
  3. จะต้องมีแหล่งกำเนิดพลังงาน เพราะแม้ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิดแบบไร้สายสัญญาณ แต่ตัวกล้องเองก็จะต้องมีพลังงานเข้าไปหล่อเลี่ยง เช่น ถ้าหากใช้พลังงานไฟฟ้า ก็จำเป็นที่จะต้องมีการติดตั้งปลั๊กไฟในจุดต่าง ๆ ที่มีกล้องติดอยู่ หรือถ้าหากเป็นการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ก็จะต้องติดตั้งแหล่งกำเนิดพลังงานตามข้อกำหนดของเทคโนโลยีนั้น ๆ
  4. กล้องวงจรปิดแบบไร้สายสัญญาณโดยส่วนใหญ่จะขายเป็นชุด เช่น 4 ตัว หรือ 8 ตัว โดยเมื่อเรานำไปใช้งาน หากมีกล้องตัวหนึ่งตัวใดชำรุด เราจะต้องนำกล้องตัวใหม่มาเปลี่ยนโดยจะต้องเป็นกล้องรุ่นเดียวกัน แบรนด์เดียวกัน จึงจะนำมาใช้งานร่วมกันได้ ซึ่งในบางกรณีถ้าหากเราได้ผ่านการใช้งานไปนาน ๆ แล้ว กล้องรุ่นนั้นอาจจะหาซื้อมาเปลี่ยนไม่ได้แล้ว เพราะเลิกผลิตไป หรือมีรุ่นใหม่ออกมาขายแทน สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นเหตุให้เราไม่สามารถใช้งานกล้องวงจรปิดที่เรามีเหลืออยู่ได้อย่างเต็มอัตรา

ทั้งหมดนี้ก็เป็นหลักคิดง่าย ๆ ในการตัดสินใจว่าเราจะเลือกกล้องวงจรปิดอย่างไร และถึงแม้ว่าเราจะไม่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องเทคโนโลยีเชิงลึกมากนัก แต่ถ้าหากพิจารณาด้วยหลักคิดง่าย ๆ ตามพื้นฐานความเข้าใจในฐานะของผู้ใช้งานการเลือกซื้อกล้องก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

ผู้เขียน
Security Systems Magazine