มาเลเซียทดลองศาล AI ช่วยตัดสินคดี แนวโน้มลงโทษรุนแรงกว่าผู้พิพากษา

Share

Loading

มาเลเซียทดสอบการใช้ศาล AI ในการตัดสินคดีตั้งแต่ปี 2020 แต่เริ่มมีข้อกังวลเรื่องจริยธรรม และการใช้ดุลพินิจที่เปลี่ยนจากผู้พิพากษามาเป็นเครื่องจักร

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ศาลในเมืองซาบาห์ได้สร้างประวัติศาสตร์ โดยเป็นศาลแห่งแรกของมาเลเซียที่ใช้ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ช่วยในการตัดสินให้ศาลพิพากษา ศาล AI ในมาเลเซียเป็นโครงการนำร่องเพื่อทดสอบประสิทธิภาพ AI ก่อนการตัดสินใจว่าจะใช้ทั่วประเทศหรือไม่อย่างไร โดยจะสิ้นสุดการทดสอบในเดือนเมษายน 2022

นอกจากศาล AI ในเมืองซาบาห์แล้ว ตั้งแต่กลางปี 2021 ศาลในเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย ก็เริ่มทดสอบซอฟต์แวร์ AI เพื่อช่วยพิจารณคดีในศาลด้วย โดยใช้กับอาชญกรรม 20 ประเภทที่แตกต่างกัน

การฝึกฝน AI ในโครงการนำร่องนี้ ฝึกอัลกอริทึมจากชุดข้อมูลที่ป้อนให้มัน 5 ปี ซึ่งเป็นคดีที่เกิดขึ้นระหว่างปี 2014 – 2019

นักกฎหมายในมาเลเซีย กำลังมีข้อถกเถียงถึงความเหมาะสมของศาล AI เพราะมีแนวโน้มว่าเครื่องจักรจะพิจารณาจากข้อเท็จจริงเป็นหลัก แต่ในบางครั้งอาจต้องใช้ “จิตใจ” ของมนุษย์เป็นเหตุผลร่วมตัดสิน ลูกความของทนายที่โดนศาล AI ตัดสินคดี มีความเห็นว่า AI ลงโทษรุนแรงเกินไป ลูกความของเขาโดนตัดสินจำคุก 12 เดือนสำหรับการครอบครองเมทแอมเฟตามีนเพียง 0.01 กรัม

ฝ่ายที่เห็นด้วยกับการใช้ศาล AI มีความเห็นด้านบวกว่า AI จะช่วยเคลียร์งานค้างในศาลได้รวดเร็วขึ้น ประหยัดต้นทุนการทำงานไปได้มาก

ผู้โต้แย้งการใช้ศาล AI บางส่วน มีความเห็นว่าข้อมูลที่ใช้ฝึกฝน AI ในโครงการนี้ มีเพียง 5 ปี อาจน้อยเกินไป ควรมีข้อมูลให้มันเรียนรู้มากกว่านี้ การป้อนข้อมูลให้ AI เรียนรู้มากขึ้น เพื่อให้มันผิดพลาดน้อยลง เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก อาจต้องใช้เวลาบ้าง การปรับโปรแกรมหรือสร้างอัลกอริทึมสามารถทำได้

เรื่อง “เชื้อชาติ” ที่อาจมีผลเวลาใช้คนตัดสิน สามารถตัดตัวแปรนี้ออกไปได้เมื่อเป็น AI

แหล่งข้อมูล

https://www.facebook.com/698124263678932/posts/2213289985495678/