จริงๆ ความคิดเรื่อง ‘แบตเตอรี่มีชีวิต’ ไม่ใช่เรื่องใหม่ รับรู้กันมานานแล้วว่าเราสามารถเก็บเกี่ยวพลังงานไฟฟ้าจากสิ่งมีชีวิตได้ และสิ่งมีชีวิตที่ว่าก็มักจะเป็นพวกพืชขนาดเล็ก พูดให้ตรงกว่านั้นก็คือ เขานิยมใช้พวก ‘สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน’ เพราะกระบวนการสังเคราะห์แสงของมันมีการปล่อยอิเล็กตรอนมา ซึ่งเล็กพอที่จะเอาไปทำแบตเตอรี่ได้ เพราะพลังงานที่ได้รับก็น่าจะพอเพียงกับการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กเท่านั้น
นี่คือคอนเซ็ปต์และไอเดียที่มีมานานแล้ว แต่คนก็ยังไม่เอาไปลองทำสักที เพราะไม่รู้จะทำไปทำไม ล่าสุดทีมวิจัยก็เลยพิสูจน์เลยว่า แบตเตอรี่ขนาดพอๆ กับถ่าน AA ทำจากสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินนั้นสามารถให้พลังงานคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋ว (หรือไมโครโปรเซสเซอร์ Arm Cortex M0+ สไตล์ที่ใช้กับพวกอุปกรณ์ Internet of Things) ได้จริงๆ โดยเขาประมาณการว่า ถ้าอุปกรณ์ใช้ไฟ 0.3 ไมโครวัตต์ แบตเตอรี่แบบนี้ก็เพียงพอจะให้พลังงานไปได้เรื่อยๆ
โดยผลวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Energy & Environmental Science ปี 2022 พบว่าแบตเตอรี่สามารถจ่ายไฟได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แสดงให้เห็นว่ากระบวนการสังเคราะห์แสงของสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินมันดำเนินต่อเนื่องมาในเวลาที่ไม่มีแสง ทำให้สามารถจ่ายไฟได้ในเวลากลางคืน ซึ่งทุกวันนี้แม้ว่าการทดลองจะจบลง แต่แบตเตอรี่ดังกล่าวก็ยังทำงานได้อยู่
ถามว่าการทดลองนี้ให้อะไร? แน่นอน ในแง่พลังงานสะอาดมันคงจะไม่เป็นประเด็นเท่าไร เพราะพลังงานก็ไม่ได้เยอะ แต่ในแง่อุปกรณ์ Internet of Things ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะมันแสดงให้เห็นความเป็นไปได้ที่อุปกรณ์ Internet of Things จะสามารถใช้แบตเตอรี่แบบนี้ ในพื้นที่ห่างไกลได้
ไฮไลต์ที่น่าสนใจก็คือมันทำงานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แตกต่างจากการใช้โซลาร์เซลล์ที่ไม่มีทางจะทำงานตอนกลางคืนที่ไม่มีแสงได้แน่ๆ และถ้าเพิ่มแบตเตอรี่เข้าไป มันก็จะทำให้อุปกรณ์ใหญ่ขึ้น ดังนั้นแบตเตอรี่มีชีวิตขนาดเท่าถ่าน AA นี้ก็เลยเป็นเทคโนโลยีน่าสนใจมากๆ ในการเอาไปใส่อุปกรณ์ Internet of Things ให้ทำงานไปได้เรื่อยๆ ทั้งกลางวันและกลางคืนในพื้นที่ห่างไกล
ถึงตรงนี้ ถ้าใครติดตามพัฒนาการของเทคโนโลยี Internet of Things ก็จะรู้ว่าฝั่งฮาร์ดแวร์เขาก็พยายามพัฒนาฮาร์ดแวร์ที่ใช้กระแสไฟฟ้าน้อยลงเรื่อยๆ เพื่อให้ความไร้สายและทำงานได้ยาวนานมันเป็นไปได้มากขึ้น ซึ่งเขาก็คาดหวังให้ฝั่งที่พัฒนาแบตเตอรี่นั้นพัฒนาแบตเตอรี่สาหร่ายสีน้ำเงินขึ้นมานี่แหละ คือเขาออกแบบมาให้มันใช้ไฟน้อยๆ และทำงานได้ต่อเนื่องยาวนาน เพื่อความสะดวก โดยไม่ต้องมาชาร์จไฟบ่อย หรือไม่ต้องชาร์จเลยก็จะดีที่สุด
นี่แหละครับ ยุคสมัยของ Internet of Things กำลังจะเริ่มจริงๆ แล้ว หลังจากที่เราได้ยินมาหลายปี
แหล่งข้อมูล