Physics มาจากภาษากรีกแปลว่า “ธรรมชาติ” วิชาฟิสิกส์เป็นแขนงหนึ่งของวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นการศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติ เช่น การเคลื่อนที่ของวัตถุ พลังงาน ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ฯลฯ
การศึกษาของฟิสิกส์จะมีเรื่องเล็กๆในระดับอะตอม จนถึงเรื่องใหญ่ระดับจักรวาล
ผลการศึกษาทางฟิสิกส์ที่ค้นพบ สามารถนำไปใช้เป็นความรู้พื้นฐานสำหรับเทคโนโลยีอื่นๆอีกหลายอย่าง
หลักการฟิสิกส์ที่ค้นพบโดยนักฟิสิกส์คนหนึ่งซึ่งเป็นที่ยอมรับในแวดวงวิทยาศาสตร์ จะถูกใช้เป็นทฤษฎีเพื่อการพัฒนาเรื่องใหม่ และอาจกลายเป็นทฤษฎีใหม่ที่ต่อยอดออกไป
กาลิเลโอค้นพบหลักการทางฟิสิกส์ด้านกลศาสตร์ว่า โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์
นิวตันใช้แนวคิดของกาลิเลโอมาพัฒนาสร้างทฤษฎี “กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน” ใช้หลักการเรื่อง “แรงโน้มถ่วง” มาอธิบายการโคจรของดาวเคราะห์ต่างๆ
กฎว่าด้วยการเคลื่อนที่ข้อสอง(F=ma) ของนิวตัน ถูกไอน์สไตน์นำไปพัฒนาต่อเป็นทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป และกลายเป็นการปฏิวัติวงการวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยีการนำร่องด้วยระบบจีพีเอส มีที่มาจากทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป
โวลตาประดิษฐ์แบตเตอรี่เพื่อใช้เป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้า
เออร์สเตดนำแบตเตอรี่ของโวลตาไปทดลองจนพบวิธีการใช้กระแสไฟฟ้าทำสนามแม่เหล็ก
ฟาราเดย์นำความรู้จากเออร์สเตดมาสร้าง “กฎการเหนี่ยวนำไฟฟ้าของฟาราเดย์”
การค้นพบต่างๆทางฟิสิกส์ เป็นการต่อยอดที่เกิดจากทฤษฎีหนึ่ง ไปเป็นเรื่องใหม่ที่อาจกลายเป็นทฤษฎีใหม่ แต่กว่าจะคิดค้นเรื่องใหม่ได้ ต้องใช้เวลานาน หรือคนที่ค้นพบอาจเป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นยอดระดับรางวัลโนเบล
แต่วันนี้วงการฟิสิกส์โลกกำลังจะพลิกโฉมครั้งใหญ่
AI สามารถเรียนรู้หลักการฟิสิกส์ของ นิวตั้น ไอน์สไตน์ ฟาราเดย์ และนักฟิสิกส์ชั้นยอดทุกคนที่โลกเคยมีมา มันจะกลายเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นนักฟิสิกส์ที่ยิ่งใหญ่ของโลก!!!
นักวิจัยจาก Duke University ค้นพบวิธีสอนฟิสิกส์ให้กับ AI และมันสามารถเอาสิ่งที่เรียนรู้จากหลักการฟิสิกส์ทั้งหมด มาค้นพบสิ่งใหม่ๆได้ด้วยตัวเอง และทำได้อย่างรวดเร็ว
บทความทางวิชาการที่นำเสนอใน Advanced Optical Materials เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2022 รายงานว่า ได้ใช้ Machine Learning Algorithms ช่วยระบุลักษณะของวัสดุทางวิศวกรรมที่เรียกว่า Metamaterials ได้สำเร็จ ทำให้เข้าใจว่ามันโต้ตอบกับสนามแม่เหล็กไฟฟ้าอย่างไร
AI มีข้อมูลทฤษฎีที่มันได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักการทางฟิสิกส์ ทำให้มันสามารถเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆเกี่ยวกับ Metamaterials ได้สำเร็จ และมีหลักการที่สามารถอธิบายได้อย่างสมเหตุผล
ทีมนักวิจัยของ Duke University เรียก AI ของพวกเขาว่า “Lorentz Model”
สิ่งที่ “Lorentz Model” ค้นพบในโลกฟิสิกส์ จัดอยู่ในระดับเดียวกับนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะของโลก
ถ้า AI ถูกพิจารณาให้ร่วมรับรางวัลโนเบลด้วย เราจะได้เห็นมันเป็นผู้ชนะรางวัลสุดยอดนักฟิสิกส์โลก!!!
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/turakij4.0/photos/a.698141950343830/2266061363551873/