งานบ้านคืองานน่าเบื่อเสมอของมนุษยชาติ และแม้ว่าเราจะพัฒนาเทคโนโลยีและเครื่องไม้เครื่องมือมาช่วยเหล่า ‘แม่บ้าน’ ทำงานบ้านมาตลอด ตั้งแต่หม้อหุงข้าวไฟฟ้า เครื่องดูดฝุ่น เครื่องซักผ้า เครื่องล้างจาน แต่ ‘งานบ้านอันน่าเบื่อ’ ก็ยังคงอยู่คู่กับเรา
และถ้ามันจะมีงานสักงานที่มนุษย์ยินดีจะให้หุ่นยนต์แย่งไปทำอย่างถาวร โดยไม่น่าจะมีการประท้วงจากสหภาพแรงงานใดๆ ในโลก มันก็คงจะเป็น ‘งานบ้าน’ นี่แหละ
ทีนี้คำถามคือ หุ่นยนต์ทำงานบ้านที่มีขายกัน ณ ปัจจุบันมีมากแค่ไหน? คำตอบคือ เอาจริงๆ แม้ว่าคนจะรู้จักแค่พวก หุ่นยนต์ ‘กวาดพื้น’ ชื่อดังอย่าง Roomba ที่อยู่มาเกิน 20 ปีแล้ว (และรุ่นล่าสุดเอาฝุ่นไปทิ้งได้เองแล้ว) ความจริงมันมีการพัฒนาหุ่นยนต์มาทำงานบ้านอีกสารพัดรูปแบบ เช่น ตักทรายแมว ตักหิมะ ขัดตะแกรง หรือกระทั่งทำความสะอาดสระน้ำ
ซึ่งพูดรวมๆ มันไม่ยากอะไรเลยที่จะสร้างหุ่นยนต์มาทำงานบ้านแบบเฉพาะเป็นอย่างๆ แต่ผลที่จะเกิดขึ้นถ้าเราจะใช้หุ่นยนต์ให้ทำความสะอาดบ้านแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็คือ เราอาจต้องมีหุ่นยนต์เป็นสิบๆ ตัวสำหรับงานที่แตกต่างกันในบ้าน และบ้านก็คงจะดูเป็นที่อยู่อาศัยของหุ่นยนต์มากกว่าบ้านของเราเอง
…แต่ถ้ามันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้นล่ะ?
ล่าสุด ณ ปี 2022 ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน (Carnegie Mellon University) รัฐเพนซิลวาเนีย ได้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ตัวใหม่ที่ใช้สอนหุ่นยนต์ให้ ‘เลียนแบบ’ การทำงานบ้านของมนุษย์ หรือพูดง่ายๆ นี่คือซอฟต์แวร์ที่จะสอนให้หุ่นยนต์เปิดตู้เก็บจาน เอาขยะไปทิ้ง ถูพื้น ดูดฝุ่นเพดาน เอาผ้าไปซัก ฯลฯ ไปพร้อมๆ กับทำงานคลาสสิกเดิมๆ ของหุ่นยนต์อย่าง ‘กวาดพื้น’ ได้
และไอเดียก็คือ มันจะรวม ‘ทุกทักษะการทำงานบ้าน’ เข้าในหุ่นยนต์ตัวเดียว เพียงแค่มันมีร่างกายที่เหมาะสม กล่าวคือมีมือเหมือนมนุษย์ ให้ทำงานแบบมนุษย์ได้หมด และมีเท้าเหมือนมนุษย์ จะได้ขึ้นลงบันไดและทางต่างระดับในบ้านเองได้
แน่นอน นี่เป็นแค่ ‘คอนเซ็ปต์’ ของ ‘ร่างกายหุ่นยนต์’ ที่ต้องพัฒนาไปควบคู่กัน แต่ประเด็นคือ มันมี ‘ซอฟต์แวร์’ แล้ว
และถามว่า นี่เป็นเรื่องใหม่หรือ? คำตอบคือไม่ใช่เรื่องใหม่เลย ถ้าเราได้ติดตามการพัฒนา AI ที่มันพัฒนาไปเร็วมากๆ ในทุกด้าน มีอัลกอริธึมใหม่ๆ มาตลอด และก็มีคนเอามาประยุกต์สร้าง AI ที่สามารถทำงานใหม่ๆ ที่หุ่นยนต์ไม่เคยทำได้มาก่อน ออกมาได้ตลอด
ดังนั้น ก้าวใหม่ของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์เริ่มขึ้นแล้ว มันอาจไม่ได้เกิดขึ้นใน 10 ปีก็จริง แต่การคาดว่าภาวะที่หุ่นยนต์จะทำงานบ้านแทนมนุษย์ได้ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นภายในปี 2050 แบบที่มีการคาดเดาในหลายๆ เรื่อง มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เกินเลย และพัฒนาการทางเทคโนโลยีก็ดูจะทำให้เรายิ่งยืนยันได้ว่า มันมีความเป็นไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ ว่าจะเกิดขึ้นจริง
ทั้งนี้ ‘ปัญหา’ จริงๆ ที่ทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้ยังออกสู่ท้องตลาดได้ช้าและยาก อาจเป็นเรื่องของ ‘ราคา’ มากกว่า คือถ้าราคามันลงต่ำเมื่อไร คนก็ใช้กันแพร่หลายเมื่อนั้น (เช่นเดียวกับทุกเทคโนโลยี) และถ้าราคามันแพง การ ‘จ้างแม่บ้าน’ มาทำงานบ้านให้ก็อาจจะเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลทางเศรษฐกิจมากกว่า
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/brandthink.me/photos/a.1767934240198787/3402118516780343/