3 เรื่องต้องรู้หลัง พ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีผลบังคับใช้

Share

Loading

3 เรื่องต้องรู้ หลัง พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีผลบังคับใช้แล้ว ประชาชนที่ถูกหลอกต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างดูเลย

จากกรณีที่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มีผลบังคับใช้ในวันนี้ โดยทาง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส  ได้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ 3 เรื่องต้องรู้ เมื่อ พ.ร.ก.

1 เมื่อถูกหลอกหรือมีเหตุสงสัยว่าตกเป็นเหยื่อ* ให้รีบดำเนินการดังนี้

*เช่น กรณีหลอกลวงคอลเซ็นเตอร์ และแอปดูดเงิน เป็นต้น

(1) แจ้งธนาคารทันที ผ่านเบอร์ศูนย์รับแจ้งเหตุ hotline หรือที่สาขาเพื่อให้ระงับธุรกรรมชั่วคราว ช่วยตัดตอนเส้นทางการเงิน

(2) แจ้งตำรวจอย่างรวดเร็ว ผ่านออนไลน์หรือท้องที่ใดก็ได้ เพราะธนาคารระงับธุรกรรมชั่วคราวได้ไม่เกิน 72 ชั่วโมง โดยตำรวจจะแจ้งให้ธนาคารทราบเพื่อระงับธุรกรรมต่อ  อีก 7 วันระหว่างดำเนินการสอบสวน

2 โทษบัญชีม้าและซิมม้า…หนักขึ้น แค่โฆษณาซื้อ/ขาย…ก็ผิดแล้ว

เปิดหรือยอมให้คนอื่น ใช้บัญชีเงินฝาก บัตร หรือ e-Wallet เป็นบัญชีม้า หรือ  ให้คนอื่นใช้/ยืมใช้ เพื่อนำไปใช้ในการทุจริตหรือทำผิดกฎหมาย ต้องรับโทษ จำคุกไม่เกิน  3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 300,000  บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

โฆษณาเพื่อให้ มีการซื้อ/ขายบัญชีม้า หรือซิมโทรศัพท์ ต้องรับโทษ จำคุก 2-5 ปี และปรับ ตั้งแต่ 200,000-500,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล ระหว่างกัน มีดังนี้

  • ธนาคาร แชร์ข้อมูลทุกจริตระหว่างกันโดยไม่ติด PDPA ผลที่คาดลดบัญชีบ้าจำกัดความเสียหาย
  • ตำรวจ DSI  ปปง.  ได้รับแจ้งข้อมูลทุจริตที่แลกเปลี่ยนกันได้ ผลที่คาด ช่วยเหลือได้รวดเร็วติดตามลงโทษผู้กระทำผิด

แหล่งข้อมูล

https://www.thansettakij.com/technology/technology/559208