จาก ChatGPT สู่ยุคสมัยที่เอไอทำงานด้านกฎหมาย

Share

Warning: Undefined array key "postid" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 24

Warning: Undefined array key "increase" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 25

Warning: Undefined array key "show_views_today" in /home/securitysy/domains/securitysystems.in.th/public_html/wp-content/plugins/page-views-count/src/pvc_widget.php on line 26

Loading

เราเคยได้ยินขีดความสามารถของ เอไอ หรือ ปัญญาประดิษฐ์มามาก หลายภาคส่วนเริ่มเกิดความกังวลว่าตำแหน่งงานในระบบอาจหายไป ล่าสุดความกังวลส่วนนี้กำลังจะเผื่อแผ่ไปถึงชุมชนนักกฎหมาย เมื่อมีการพัฒนาเอไอที่สามารถเป็นผู้ช่วยทนายไปจนถึงการว่าความ

ความทรงพลังของ ปัญญาประดิษฐ์ ได้รับการยืนยันจากทั่วโลกด้วยการมาถึงของ ChatGPT หนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญที่อาจพลิกโฉมโลกเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ การมาถึงของเอไอช่วยผลักดันวิทยาการและศาสตร์ทุกด้านให้ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด คาดว่าจะช่วยให้มนุษยชาติก้าวหน้าขึ้นอีกมากในอนาคต

ขณะเดียวกันความกังวลของผู้คนก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อขีดความสามารถของเอไอผ่านการยกระดับจนเกินกว่าใครคิด ปัจจุบันปัญญาประดิษฐ์สามารถทำได้หลากหลาย ตั้งแต่การเขียนบทความ, การวาดภาพ, การแต่งบทกวี, การแต่งเพลง, การเขียนโค้ดโปรแกรม ฯลฯ สร้างความกังวลให้แก่แรงงานในตลาดที่อาจถูกแย่งงานไปได้ทุกเมื่อ

ล่าสุดความกังวลจะยิ่งทวีความรุนแรงเมื่อเอไอได้รับการพัฒนาให้เข้ามาช่วยงานในด้านกฎหมาย

เอไอช่วยสนับสนุนงานด้านกฎหมาย

เอไอตัวล่าสุดที่ได้รับการพัฒนาเพื่อสนับสนุนงานด้านกฎหมายคือ CoCounsel จากบริษัท Casetext ปัญญาประดิษฐ์ที่ได้รับการเทรนเพื่อให้ปฏิบัติงานด้านกฎหมาย โดยมีต้นแบบมาจากระบบของ ChatGPT พัฒนาไปสู่ระบบที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษในด้านกฎหมายอุตสาหกรรม

การสร้างเอไอตัวนี้อาศัยพื้นฐานระบบของทาง OpenAI มารวมเข้ากับข้อมูลกฎหมายจำนวนมหาศาลที่ทางบริษัทรวบรวม ผนวกกับเว็บไซต์ค้นหาข้อมูลรายละเอียดทางกฎหมายอย่าง Parallel Search โดยใช้เวลาในการเทรนมากกว่า 4,000 ชั่วโมง กลายเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่มีประสิทธิภาพในการสนับสนุนงานกฎหมายรูปแบบต่างๆ

CoCounsel มีขีดความสามารถ 7 ด้านที่นักกฎหมายต้องการจากผู้ช่วยและบริษัทกฎหมายขนาดใหญ่ ตั้งแต่การค้นหาฐานข้อมูล, ตรวจสอบเอกสาร, สรุปเอกสารและรายงาน, ตรวจสอบสัญญาแต่ละฉบับ, วิเคราะห์และดึงข้อมูลจากสัญญา, ร่างบันทึกทางกฎหมาย รวมถึงการนำเสนอชุดคำถามที่จะใช้กับพยาน

สิ่งเหล่านี้จะช่วยผ่อนแรงสนับสนุนงานทางกฎหมายให้แก่ทนายความและเจ้าหน้าที่ ให้มีขีดความสามารถในการเข้าถึงงานวิจัยทางกฎหมาย และช่วยผ่อนแรงในขั้นตอนการตรวจสอบเอกสาร หรือแม้แต่การร่างเอกสารทางการเพื่อการฝากขังต่างๆ ถือเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของนักกฎหมายที่ก้าวกระโดดครั้งใหญ่จากเทคโนโลยี

สำหรับตัวเอไอทางบริษัทยืนยันในความเที่ยงตรงของข้อมูล จากการสนับสนุนของทีมเทคโนโลยี AI และเจ้าหน้าที่กฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญ ตัวระบบผ่านการทดสอบจากคำถามทางกฎหมายมาแล้วมากกว่า 30,000 ข้อ เพื่อให้แน่ใจในขีดความสามารถ และดึงประสิทธิภาพข้อมูลจำนวนมหาศาลจากแพลตฟอร์มออกมาถึงขีดสุด

แน่นอนว่าไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ยังมีเอไอตัวอื่นที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับงานทางกฎหมายและคดีความเช่นกัน

เอไอที่ถูกนำมาใช้ในการว่าความ

อีกหนึ่งบริษัทที่หยิบเอาเอไอใช้งานด้านกฎหมายคือ DoNotPay พวกเขากำลังพัฒนาเอไอเพื่อใช้ในการว่าความ โดยมีหลักคิดคือ การพัฒนาเอไอเพื่อใช้ในการต่อสู้กับองค์กรขนาดใหญ่ สำหรับการว่าความคดีเล็กน้อยจุกจิกที่สามารถเอาชนะได้ง่ายในชั้นศาล แต่กลับไม่คุ้มค่าเสียเวลา ดำเนินการ ไปจนค่าบริการทางกฎหมายในการฟ้องร้อง

รูปแบบที่เอไอตัวนี้ได้รับการเทรนขึ้นมา เพื่อรับมือปัญหาประเภททางกฎหมายบางประเภทที่สร้างความยุ่งยากรำคาญใจแก่เจ้าทุกข์ เช่น การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมผิดพลาด, การเก็บค่าใช้บริการโทรศัพท์เกินราคา, การให้ใบสั่งผิดประเภท หรือการยกเลิกสมาชิกที่ทำให้เกิดค่าปรับ ฯลฯ เพื่อให้ผู้ใช้งานไม่ถูกเอาเปรียบจากเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้อีกต่อไป

เอไอที่กำลังพัฒนาตัวนี้จะเสนอทางเลือกใหม่ในการรับมือไปจนว่าความดำเนินคดี เพื่อมองหาทางแก้ไขที่ผู้ใช้งานจะได้ประโยชน์สูงสุดจากกรณีเหล่านี้ โดยสามารถให้คำแนะนำเพื่อนำไปสู่การรับมือที่ถูกต้อง เพิ่มโอกาสในการเรียกคืนเงินส่วนที่น่าจะเป็นของผู้ใช้งานกลับมา

จุดเด่นสำคัญของระบบนี้คือ การว่าความหรือขอรับคำปรึกษาทางกฎหมาย ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องเสียเวลาติดต่อหรือค่าตัวทนายที่มีราคามหาศาลอีกต่อไป เพราะอัตราค่าบริการของระบบนี้อยู่ที่ 36 ดอลลาร์(1,260 บาท)/ปี ซึ่งจะเป็นทางเลือกลดข้อกวนใจทางกฎหมายให้แก่ผู้ใช้บริการได้อีกมาก

ข้อจำกัดในปัจจุบันคือ เอไอตัวนี้ยังอยู่ในขั้นทดลองการใช้งาน โดยจะมีการว่าความให้แก่ผู้ใช้บริการเรื่องใบสั่งที่ต้องรอดูต่อไปว่าให้ผลลัพธ์ออกมาเช่นไร อีกทั้งยังมีข้อจำกัดทางด้านกฎหมายว่า ศาลจะยอมรับการพิจารณาคดีของเอไอและการให้คำปรึกษาในรูปแบบนี้หรือไม่ เป็นความท้าทายที่ทางบริษัทต้องรับมือต่อไปในอนาคต

โอกาสและความเสี่ยงที่ตามมาภายใต้การเข้ามาของเอไอ

แน่นอนปัญญาประดิษฐ์ทั้งสองตัวกำลังอยู่ในช่วงริเริ่ม ยังมีอีกหลายส่วนที่ต้องได้รับข้อมูลจากการใช้งานแล้วจึงนำไปปรับปรุง กว่าจะสมบูรณ์และผ่านการยอมรับในด้านกฎหมายจึงจำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักพัก แต่เชื่อว่าเท่านี้ก็มากพอจะสร้างความกังวลให้แก่แรงงานในวิชาชีพ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมาถึงของเอไอจะเข้ามาแย่งงานจากระบบไปไม่น้อย ทั้งเอไอว่าความที่อาจเข้ามามีบทบาทในคดีหรือกรณีเล็กน้อยมากขึ้น ลดจำนวนคดีความที่จะมาถึงมือแรงงานหรือมนุษย์ลงไป รวมถึงเอไอ CoCounsel ซึ่งจะเข้ามาช่วงชิงตำแหน่งหน้าที่ผู้ช่วย หรืองานสนับสนุนทางกฎหมายทั้งหลายอย่างดุเดือด

จริงอยู่ในการว่าความคดีที่มีโทษหนัก รายละเอียดสูง หรือมีความซับซ้อนมาก ทนายความและเจ้าหน้าที่ทางกฎหมายมืออาชีพยังคงสำคัญ ปัจจุบันยังไม่มีปัญญาประดิษฐ์เจ้าใดสามารถเข้ามาทำหน้าที่ทดแทน แต่สำหรับเจ้าหน้าที่ทั่วไปหรือนักกฎหมายฝึกหัดที่เริ่มจากงานเอกสาร พวกเขาอาจถูกทดแทนจากเอไอเป็นจำนวนมาก และอาจสร้างปัญหาขาดแคลนตำแหน่งงานได้เช่นกัน

ที่สำคัญคือเมื่อประเมินจากแนวโน้มเทคโนโลยีในปัจจุบัน เป็นไปได้สูงว่าการพัฒนาเอไอให้สามารถว่าความคดีซับซ้อนได้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว อย่างที่ทราบดีว่าข้อมูลที่ได้รับในการว่าความจะเป็นรากฐานให้แก่การพัฒนาระบบต่อไป เมื่อสั่งสมข้อมูลและประสบการณ์มากเข้า ก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นว่าเอไอจะมีขีดความสามารถมาทดแทนตำแหน่งงานเราในวันใด

กระนั้นใช่จะมีเพียงข้อเสีย เราทราบดีว่าการขอรับคำปรึกษาหรือดำเนินการทางกฎหมาย หลายกรณีมีค่าบริการสูงลิ่ว คดีจำนวนมากถูกประเมินว่าได้ไม่คุ้มเสียจึงเกิดการยอมความ รวมถึงมีคนอีกมากมายที่จำเป็นต้องคิดคุกหรือรับโทษทางกฎหมายโดยไม่ได้ทำผิด เพียงเพราะพวกเขาไม่มีเงินพอจ่ายค่าบริการเหล่านี้เท่านั้น

ในอนาคตหากเอไอที่ปรึกษาทางกฎหมายได้รับความนิยมใช้งานแพร่หลาย และได้รับการเทรนข้อมูลกฎหมายภายในประเทศ เป็นไปได้สูงว่าเราอาจลดจำนวนผู้ติดคุกอย่างไม่เป็นธรรม เพิ่มช่องทางในการสู้คดีกับบริษัทใหญ่หรือหน่วยงานภาครัฐ บรรเทาปัญหานักโทษล้นคุกรวมถึงลดความอยุติธรรมที่เกิดภายในระบบลงบ้าง

แต่เราคงต้องทำใจเช่นกันว่าการนำเอไอมาใช้งานด้านกฎหมายอาจเป็นเรื่องที่ถูกยอมรับได้ยากในสังคมไทย

คงต้องรอดูต่อไปว่าเทคโนโลยีจะสะดุดลงตรงนี้หรือได้รับการพัฒนาสานต่อ ในอนาคตหากการว่าความประสบความความสำเร็จและเอไอสามารถชนะคดีได้จริง จะถือเป็นการพลิกโฉมหน้าวงการกฎหมายทั่วโลก และอาจมีสักวันที่เราสามารถผลักดันให้ทุกคนเข้าถึงสิทธิและการคุ้มครองทางกฎหมายในที่สุด

แหล่งข้อมูล

https://www.posttoday.com/post-next/innovation/692400