“ภาษีหุ่นยนต์” การแก้ปัญหาความขัดแย้งเชิงโครงสร้างด้าน A.I.

Share

Loading

หากพูดถึงอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ มีแง่มุมด้านลบที่หลายท่านวิตกกังวลก็คือ หุ่นยนต์จะเข้ามาแย่งตำแหน่งงานของมนุษย์

World Economic Forum เผยผลวิจัยของมหาวิทยาลัย Oxford ที่ได้สังเคราะห์งานวิชาการหลายร้อยชิ้นเกี่ยวกับความเสี่ยงที่มนุษย์จะถูกหุ่นยนต์แย่งงานไปทำภายใน 20 ปีนับจากนี้ครับ

โดยคาดการณ์ว่าแรงงานในสหรัฐอเมริกามีโอกาสสูญเสียตำแหน่งงานให้กับ A.I. มากถึง 47% ขณะที่ในยุโรปมีอัตราที่มากกว่าคือ 54%

ใจความสำคัญของงานวิจัยดังกล่าว คือการชี้ให้เห็นถึงความตระหนกที่มาพร้อมความตระหนักของการที่โลกเราได้เข้าสู่ยุคทองของ A.I. อย่างเต็มรูปแบบ

Rutger Bregman นักเขียน Bestseller เจ้าของผลงาน Utopia for Realists ซึ่งตีพิมพ์เมื่อปี ค.ศ.2016 ได้กล่าวว่า อนาคตที่กำลังจะมาถึง ค่าของคนไม่ได้อยู่ที่ผลของงานในความหมายของค่าตอบแทนอีกต่อไป แต่คือความสุขที่เราได้รับจากการทำงาน

แม้แนวคิดดังกล่าวจะตรงกับ GNH (Gross National Happiness) ของประเทศภูฏาน ทว่า หากเรามองในแง่ที่ว่า A.I. จะเข้ามาทำงานแทนมนุษย์แล้ว การสร้างความตระหนักน่าจะมีความสำคัญมากกว่า

เพราะประเด็นหลักหนึ่งในหนังสือ Utopia for Realists ของ Rutger Bregman ก็คือ Jobs are for robots and life is for people ซึ่งได้รับการขยายความและต่อยอด พร้อมกับมีนักคิดระดับโลกได้นำเสนอแนวทาง Universal Basic Income (UBI) ออกมารองรับ

UBI คือสิทธิขั้นพื้นฐานของมวลมนุษยชาติในอนาคต ที่พลเมืองโลกควรมีปัจจัย 4 และรายได้ที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตในจำนวนเท่ากันไม่ว่าจะร่ำรวยหรือยากจน

ทันทีที่มีการประกาศแนวคิด UBI แรงสนับสนุนจาก Elite ระดับโลกก็ถาโถมเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น Elon Musk The Iron Man หรือ Andrew Ng ผู้เชี่ยวชาญ A.I. ของ Baidu ยักษ์ใหญ่ Search Engine จากประเทศจีน และที่สำคัญที่สุดก็คือ Pierre Omidyar ผู้ก่อตั้ง eBay บริจาคเงินก้อนใหญ่ให้แก่การทดลอง UBI ในเคนยา ซึ่งจะแจกเงินให้เปล่าแก่ประชากร 6,000 คน ภายใต้งบประมาณกว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และใช้เวลา 10-15 ปี

ในขณะเดียวกัน Bill Gates ได้ออกมาจุดประเด็นเรื่อง “ภาษีหุ่นยนต์” เมื่อเขามองเห็นว่า สงครามระหว่าง A.I. กับมนุษย์กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

เขากล่าวว่า การเข้าแทนที่แรงงานคนโดยหุ่นยนต์ จะก่อให้เกิดปัญหาสังคมไม่ต่างจากปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยน้ำเสีย ควันพิษจากโรงงาน การสูบน้ำบาดาล ไปจนถึงการขับรถด้วยความเร็ว กระทั่งการสูบบุหรี่

ซึ่งในทางเศรษฐศาสตร์จะรู้จักกันในชื่อ “ผลกระทบภายนอกที่เป็นลบ” หรือ Negative Externality หมายถึง ปัญหาที่ก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่สังคม โดยที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวและไม่อยากได้รับ

Bill Gates บอกว่าในกรณีของ “ภาษีหุ่นยนต์” นั้น การใช้หุ่นยนต์ทำงานแทนมนุษย์ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลงอย่างแน่นอน ดังนั้น เราจึงควรเก็บ “ภาษีหุ่นยนต์” แล้วนำส่วนต่างมาให้เป็นโบนัสแก่มนุษย์

และเมื่อไม่นานมานี้ มุน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้แถลงผ่านสำนักข่าว The Korea Times ว่าเกาหลีใต้กำลังจะเป็นประเทศแรกในโลกที่มีการดำเนินนโยบาย “ภาษีหุ่นยนต์” เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เทคโนโลยีดังกล่าวจะมีต่อแรงงานมนุษย์

นับเป็นรัฐบาลแรกของโลกที่ออกมาประกาศสงครามกับ A.I.

แม้ว่าในขณะนี้นโยบายดังกล่าว จะยังไม่ใช่การเก็บ “ภาษีหุ่นยนต์” แบบ 100% ที่แท้จริง แต่เกาหลีใต้ก็ได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนว่ารัฐบาลของเขาได้เล็งเห็นความสำคัญจำเป็นที่จะต้องหางบประมาณมากขึ้นเพื่อเป็นต้นทุนให้กับการสร้างระบบสวัสดิการและสำหรับเยียวยาแรงงานผู้ได้รับผลกระทบจากยุค A.I.

Jobs are for robots and life is for people จึงเป็นแนวคิดและทิศทางที่ถูกต้องของนโยบาย “ภาษีหุ่นยนต์” ตามปรัชญาของ Bill Gates และนโยบายของเกาหลีใต้ในขณะนี้นั่นเอง

แหล่งข้อมูล

https://www.salika.co/2023/05/05/robot-tax/