J-Alert ระบบเตือนภัยพิบัติของญี่ปุ่นที่นับว่าเป็นระบบเตือนภัยที่เจ๋งและดีที่สุดในโลก มีดียังไง ซึ่งขณะนี้มีเหตุภัยสึนามิที่ญี่ปุ่น เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ซึ่งญี่ปุ่นได้ใช้งานระบบเตือนภัย J-Alert แจ้งเตือนทั่วประเทศ
J-Alert คือ Japan’s Emergency Warning System เป็นระบบเตือนภัยในประเทศญี่ปุ่นที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเตือนประชาชนเมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือภัยธรรมชาติ เช่น ทุกข์ร้าย, แผ่นดินไหว, สภาพอากาศที่รุนแรง, หรือการเปลี่ยนแปลงทางระบบนิวเคลียร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน, สถานีโทรทัศน์, วิทยุ, J-Alert จะถูกใช้เพื่อกระจายข้อมูลเตือนภัยให้กับประชาชน. ระบบ J-Alert นี้จะส่งข้อความเตือนผ่านทางหลายช่องทาง เช่น ข้อความทางโทรศัพท์มือถือ (Cell Broadcast), กระทรวงการสื่อสารและข้อมูล (MIC) ได้รับผิดชอบในการดูแลและดำเนินการระบบ J-Alert นี้
J-Alert ระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติญี่ปุ่น ใช้เทคโนโลยีอะไรบ้าง?
1. Cell Broadcast เป็นเทคโนโลยีการส่งข้อความที่สามารถกระจายไปยังเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในพื้นที่ที่กำหนดได้, โดยไม่จำเป็นต้องส่งถึงเครือข่ายทั้งหมด
2. FM Radio: สถานีวิทยุ FM ใช้เทคโนโลยีนี้ในการกระจายข้อมูลเตือนภัย
3. Television Broadcast โดยระบบ J-Alert สามารถใช้สถานีโทรทัศน์เพื่อกระจายข้อมูลเตือนภัย
4. Digital Signage: บางที่อาจใช้จอภาพดิจิตัลหรือบอร์ดแสดงข้อมูลเพื่อส่งข้อมูลเตือนภัย
5. RMT (Remote Method Invocation) สามารถใช้ RMT เพื่อส่งข้อมูลเตือนภัยไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่สามารถรับข้อมูลจากระบบ J-Alert
6. Disaster Prevention Administrative Radio เป็นระบบสื่อสารไร้สายที่ใช้ในการส่งข้อมูลเตือนภัย
ข้อดีของ J-Alert ระบบแจ้งเตือนภัยในญี่ปุ่น
เทคโนโลยีทันสมัย ระบบ J-Alert ในญี่ปุ่นมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย, เช่น Cell Broadcast, ทำให้สามารถแจ้งเตือนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การแจ้งเตือนมีความรวดเร็ว และการทำงานร่วมกับหลายช่องทางการสื่อสารทำให้มีประสิทธิภาพมาก
ย้อนกลับมาที่ประเทศไทย ปัจจุบันประเทศไทยมีระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติที่ทำหน้าที่เตือนและแจ้งให้ประชาชนทราบเมื่อมีเหตุการณ์และสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งระบบนี้มีหลายช่องทางการแจ้งเตือนต่าง ๆ ดังนี้
1. หน่วยงานราชการ: สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปสช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ในการเฝ้าระวังสถานการณ์ฉุกเฉินและมีการแจ้งเตือนผ่านทางสื่อมวลชน เช่น การประกาศผ่านทางวิทยุ, โทรทัศน์, และสื่ออื่น ๆ
2. SMS Alert มีระบบส่งข้อความทาง SMS แจ้งเตือนภัยพิบัติไปยังเบอร์โทรศัพท์มือถือของประชาชนที่ลงทะเบียนไว้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3. แอปพลิเคชัน บางหน่วยงานได้พัฒนาแอปพลิเคชันที่ช่วยในการแจ้งเตือนภัยและให้ข้อมูลเพิ่มเติม เช่น แอป “Thailand’s Early Warning” ที่ถูกพัฒนาโดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
4. หน่วยงานท้องถิ่น: ทุกท้องที่มีอำเภอ, ตำบล และหน่วยงานระดับท้องถิ่นมีบทบาทในการแจ้งเตือนและการประสานงานกับประชาชนในพื้นที่ของตน
5. สื่อมวลชน: สื่อมวลชนเช่น วิทยุ, โทรทัศน์, และสื่อออนไลน์ที่มีบทบาทในการแจ้งเตือนภัยพิบัติ
อย่างไรก็ตามประเทศไทยเองก็คงยังต้องพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติให้รวดเร็วและทันสมัยเทียบเท่ากับประเทศอื่นๆ เนื่องจากในครั้งก่อนๆอาจยังมีความล่าช้าในการแจ้งเตือนภัย และ J-Alert ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่มีการแจ้งเตือนภัยพิบัติที่รวดเร็ว เตือนภัยได้ล่วงหน้า และสร้างความสบายใจให้กับประชาชนชาวญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี
แหล่งข้อมูล