หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ นวัตกรรมสำหรับสังคมสูงวัย

Share

Loading

แนวโน้มการขยายตัวของผู้สูงอายุเป็นสิ่งที่เราเห็นได้ทั่วไป นำไปสู่การพัฒนาในหลายด้านเพื่อรองรับการมาถึงของสังคมสูงวัย วันนี้เราจึงมาพูดถึงหนึ่งในเทคโนโลยีเหล่านั้นอย่าง หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ กันเสียหน่อยว่าได้รับการพัฒนาไปถึงไหน

สังคมสูงวัย อีกหนึ่งปัญหาที่หลายท่านน่าจะรู้สึกตัวกันไม่มากก็น้อย ทั้งจากตัวเลขทางสถิติยืนยันถึงอายุเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น อัตราการเกิดของเด็กที่ถดถอย สภาพเศรษฐกิจและสังคมไม่เอื้อต่อเด็กเกิดใหม่ จนเราสามารถสังเกตผลกระทบได้ชัดเจนจากการขยายตัวของผู้สูงอายุภายในสังคม

เมื่ออายุมากขึ้นย่อมตามมาด้วยปัญหาสุขภาพนานัปการจึงไม่สามารถใช้ชีวิตได้ดังเดิม อีกทั้งการเสื่อมโทรมของสภาพร่างกาย การเจ็บป่วย หรือได้รับบาดเจ็บไม่คาดฝันอาจซ้ำเติมผลกระทบที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้สูงอายุต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ สวนทางกับสภาพสังคมและขีดความสามารถของระบบสาธารณสุขในปัจจุบัน

เพื่อแก้ไขปัญหาในส่วนนั้นจึงเริ่มมีแนวทางแก้ไขออกมามากมาย หนึ่งในนั้นคือการพัฒนาหุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ

ADAM หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุภายในบ้าน

ผลงานนี้เป็นของทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Universidad Carlos III ร่วมกับบริษัท Robotnik Automation แห่งสเปน กับการคิดค้นพัฒนา ADAM หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุรุ่นใหม่ เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่น

แนวคิดหุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุได้รับการพูดถึงทั่วไปจากการขยายตัวของสังคมสูงวัย เพื่อชดเชยข้อบกพร่องในกลุ่มผู้สูงอายุทั้งในด้านการรับรู้ทำความเข้าใจรวมถึงข้อจำกัดทางกายภาพต่างๆ นำไปสู่การพัฒนาหุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุที่จะช่วยเหลืองานต่างๆ ภายในที่พักอาศัย

หุ่นยนต์ที่พวกเขาออกแบบมีชื่อว่า Autonomous Domestic Ambidextrous Manipulator (ADAM) เป็นหุ่นยนต์ติดล้อที่มีความสูง 160 เซนติเมตร ความกว้างเมื่อกางแขนสูงสุด 50 เซนติเมตร มีต้นแบบมาจากโครงสร้างช่วงบนของมนุษย์ เพื่อให้ทำงานและสนับสนุนการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ได้สะดวก

ตัวหุ่นได้รับการติดตั้งกล้อง RGBD กล้องตรวจจับความลึกที่ใช้ในระบบตรวจจับใบหน้า ร่วมกับเซ็นเซอร์ LiDAR แบบเดียวรถยนต์ไร้คนขับ จึงสามารถใช้ในการระบุรายละเอียดอย่างสีหน้าของผู้สูงอายุที่ได้รับการดูแล รวมถึงสภาพแวดล้อมและโครงสร้างสถานที่เพื่อให้เคลื่อนไหวได้อย่างแม่นยำ

แขนกลที่ได้รับการติดตั้งยังสามารถขยับเคลื่อนไหวได้ 360 องศารอบตัว อีกทั้งยังมีระบบจับยึดแบบขนานที่ติดตั้งตัวต้านทานแรงกด ทำให้สามารถหยิบจับวัตถุด้วยแรงที่เหมาะสมไม่ให้เกิดความเสียหาย ADAM จึงเป็นหุ่นยนต์ที่สามารถทำและช่วยเหลืองานบ้านจิปาถะให้แก่ผู้สูงอายุทดแทนส่วนที่ทำไม่ไหวได้

ถือเป็นอีกหนึ่งตัวชดเชยสำคัญที่จะช่วยลดโอกาสปัญหาสุขภาพและอาการบาดเจ็บต่อผู้สูงอายุได้มาก

เมื่อทั่วโลกกำลังพัฒนาหุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ

นอกจากช่วยงานบ้านพื้นฐานแล้วตัวหุ่นยังรองรับการป้อนข้อมูล เรียนรู้ และปรับใช้จากระบบคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง ผู้ใช้งานจึงสามารถให้คำแนะนำหรือชี้แนะเพื่อปรับปรุงวิธีการทำงานได้แบบเรียลไทม์ เพื่อให้สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานแต่ละคนอย่างเหมาะสม

ADAM จึงเป็นหุ่นยนต์ที่ได้รับการออกแบบให้ช่วยเหลือเรื่องจิปาถะแก่ผู้สูงอายุ ตั้งแต่หยิบจับข้าวของ, จัดบ้าน, ทำความสะอาด ไปจนงานบ้านต่างๆ โดยจากการทดสอบผู้สูงอายุที่ทดลองใช้งาน ADAM มีอัตราการพึงพอใจในการใช้งานและช่วยเหลือของ ADAM กว่า 93%

แน่นอนว่าการพัฒนาหุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุไม่ได้มีเพียงเจ้าเดียว หนึ่งในหุ่นยนต์ที่ได้รับการพัฒนาเช่นกันคือ GARMI หุ่นยนต์ดูแลผู้ป่วยที่ได้รับการติดตั้งเครื่องมือแพทย์หลายชนิด ตั้งแต่เครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ, เครื่องวัดความดัน ไปจนเครื่องอัลตร้าซาวด์ เพื่อช่วยเก็บข้อมูลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องให้แพทย์สามารถประเมินอาการได้อย่างแม่นยำ

นอกจากนี้ยังมีหุ่นยนต์ Robwell ที่จะให้ผู้ใช้งานสวมใส่กำไลเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกายและสื่อสารกับตัวหุ่น โดยสามารถนำข้อมูลสุขภาพมาแจ้งเตือนให้ผู้ป่วยดื่มน้ำ มื้ออาหาร ไปจนเวลารับประทานยาของผู้ป่วย นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อัจฉริยะอื่นเพื่อรองรับการใช้งานของผู้ป่วยได้ด้วย

สำหรับในประเทศไทยเองก็มีการคิดค้นหุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายขึ้นมาเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือ ดินสอ หุ่นยนต์ขนาดเล็กที่สามารถพูดคุยโต้ตอบกับผู้ใช้งาน โดยสามารถทำหน้าที่เฝ้าระวังผู้สูงอายุแบบเรียลไทม์ เมื่อเกิดความผิดปกติตัวหุ่นจะสามารถแจ้งเตือนไปยังสถานพยาบาลและลูกหลานได้ทันที

นี่จึงถือเป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุคืออีกหนึ่งคำตอบในการรับมือสังคมสูงวัย

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุอาจทำให้หลายท่านตั้งคำถามถึงบทบาทของมนุษย์อยู่บ้าง มาพร้อมความกังวลว่าหุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่ ส่วนนี้ผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นตรงกันว่านั่นจะเป็นเรื่องที่ไม่มีวันเกิดขึ้น เพราะไม่ว่าหุ่นยนต์จะก้าวหน้าขึ้นแค่ไหนก็คงไม่สามารถทดแทนมนุษย์ได้เต็มร้อย

โดยเฉพาะกับบรรดาผู้สูงอายุทั้งหลายที่ยังคงอยากใช้ชีวิตร่วมกับลูกหลานที่เป็นคนจริงมากกว่าหุ่นยนต์อยู่ดี

แหล่งข้อมูล

https://www.posttoday.com/smart-life/706340