เตือนภัย ! ยุคเทคโนโลยีล้ำหน้า “มิจฉาชีพ” ใช้ AI 3 รูปแบบทั้ง ปลอมเสียง ปลอมแปลงใบหน้า หรือสร้างบทความหลอกให้มาร่วมลงทุน
ปัจจุบันมิจฉาชีพออนไลน์ มักมาทุกรูปแบบจนเหยื่อหลายรายตามไม่ทัน ซึ่งมุกมีใหม่ๆที่ไม่มีใครคาดคิดทำให้มีประชาชนหลงกลตกเป็นผู้เสียหายจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ต่างเร่งแก้ไขปราบปราม ประชาชนสัมพันธ์ ให้ความรู้แก่ประชาชน แต่คนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็พัฒนาวิธีการหลอกรูปแบบใหม่ๆ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยี Ai มาเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงกระทำความผิด
รูปแบบของ AI ที่มิจฉาชีพนำมาใช้ ที่เริ่มพบเจอเยอะมากขึ้นได้แก่
Voice Cloning
หรือการใช้ AI ปลอมเสียง โดยจะเป็นการใช้ AI เลียนแบบเสียงของบุคคลให้มีความคล้ายคลึงกับบุคคล เพื่อใช้ในการหลอกเหยื่อให้คิดว่าได้คุยกับคนๆ นั้นจริงๆ ก่อนที่จะหลอกให้โอนเงินหรือทำอะไรอย่างอื่นต่อไป
Deepfake
หรือการใช้ AI ปลอมแปลงใบหน้าให้มีความคล้ายคลึงกับบุคคลต่างๆ เพื่อหลอกเชื่อว่าคนๆ นั้นได้ทำแบบนั้นจริงหรือปลอมเป็นคนใกล้ตัวเพื่อหลอกเหยื่อ ให้หลงเชื่อ
Fake Business
หรือการใช้ Generative AI ต่างๆ ในการสร้างบทความ หรือสคริปต์วีดีโอต่างๆ เพื่อให้ดูเป็นมืออาชีพในด้านต่างๆ เพื่อหลอกเหยื่อให้มาร่วมลงทุน หรือ ใช้ร่วมกับ 2 ข้อด้านบน เพื่อความแนบเนียน
สำหรับวิธีป้องกันเบื้องต้นสามารถทำได้โดย
- สังเกตจังหวะการเว้นวรรคคำพูด น้ำเสียง เสียงวรรณยุกต์ ว่ามีจังหวะเว้นวรรคตอนแปลกๆ หรือไม่ มีน้ำเสียงราบเรียบเกินไปไหม มีจังหวะหายใจไหม หรือออกเสียงวรรณยุกต์สูงต่ำ ผิดเพี้ยนหรือไม่
- หากเป็นคลิปวีดีโอ ที่ต้องสงสัย ให้สังเกตการขยับปาก ของคนในคลิป ว่าเป็นธรรมชาติหรือไม่ มีสัดส่วนผิดเพี้ยน หรือสีผิว ดำๆ ด่างๆ หรือไม่ หรือ มีการกระพริบตาถี่หรือน้อยเกินไปหรือไม่
- หากเป็นการวีดีโอคอล แล้วคนที่โทรมาดูแปลกไปจากเดิม ให้ลองถามคำถามในเรื่องส่วนตัว ที่มีแต่คนในครอบครัวเท่านั้นที่รู้ดูก่อน หากปลายทางตอบไม่ได้ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นมิจฉาชีพ
- ก่อนโอนเงิน หรือ ทำธุรกรรมใดๆ ให้สังเกตชื่อบัญชีก่อนโอนทุกครั้งว่าตรงกันกับบัญชีที่เราจะโอนหรือไม่ หากโดนบอกให้จ่ายค่าสินค้าให้ก่อน ให้ลองปฏิเสธก่อน ห้ามโอนไปที่ร้านโดยตรง เพราะอาจเป็นการโอนเข้าบัญชีม้า หรือบัญชีมิจฉาชีพได้
- มีสติเสมอ หรือ คิดให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจหลงเชื่อ หรือโอนเงิน
แหล่งข้อมูล