แพทย์ที่ไม่ได้ใช้ AI เป็นผู้ช่วย เวลาวินิจฉัยโรคว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งหรือไม่ ต้องตรวจหาข้อมูลที่กระจัดกระจาย ต้องเปรียบเทียบกับกรณีศึกษาต่างๆ กว่าจะพบว่าเป็นมะเร็งจริง อาจล่าช้าไปหลายสัปดาห์
สำหรับแพทย์ที่เอา AI ของ Color ซึ่งติดตั้ง API โมเดลใหม่ของ OpenAI คือ GPT-4o มาเป็น Copilot ในการวินิจฉัยโรค มีโอกาสตรวจพบข้อมูลที่อาจตรวจไม่พบเพิ่มขึ้นมากกว่า 4 เท่า
แพทย์ที่ใช้ AI ช่วยตรวจมะเร็ง ใช้เวลาในการวิเคราะห์โดยเฉลี่ยเพียง 5 นาที ในขณะที่แพทย์ที่ไม่ได้ใช้ AI อาจตรวจไม่พบ หรือต้องใช้เวลาวินิจฉัยโรคหลายสัปดาห์ หากใช้วิธีการแบบเก่า การคัดกรอง วินิจฉัยโรค และการรักษาโรคมะเร็งมีความซับซ้อน จะใช้เวลานานมาก
ความล่าช้าในการตรวจพบโรค ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมาก!!!
ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาล่าช้าเพียง 4 สัปดาห์ จะมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 6-13% GPT-4o กำลังเข้ามาช่วยแพทย์เปลี่ยนแปลงวิธีการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง!!!
AI เคยเห็นภาพทั้งจาก MRI, CT Scan, X-ray และมีข้อมูลทุกเรื่อง ทุกระยะ ของคนที่เคยเป็นมะเร็งทั่วโลก มีแนวทางการรักษาที่ได้ผลจากผู้เชี่ยวชาญที่เคยทำมาก่อน
AI ถูกฝึกด้วยข้อมูลที่ดีที่สุด ทำให้มันวินิจฉัยโรคได้เก่งที่สุด AI จะเอาข้อมูลของผู้ป่วยไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลทั้งหมดที่มันมี แล้วทำการวินิจฉัยโรค มันสามารถแนะนำวิธีรักษาที่ดีที่สุด
Color Health มีเป้าหมายจะนำเทคโนโลยีช่วยแพทย์วินิจฉัยมะเร็งนี้ ไปช่วยรักษาผู้ป่วย 200,000 ราย ภายในปี 2024
มะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับที่ 2 ของคนทั่วโลก การตรวจพบเร็วกว่า หมายถึงโอกาสการรักษามะเร็งที่ดีขึ้น โอกาสตายน้อยลง!!!
แหล่งข้อมูล
https://www.facebook.com/photo/?fbid=932988708839806&set=a.687193000086046