เช็กลูกเล่น Meta AI ใช้เสียงนักแสดงดัง วิเคราะห์รูป แปล-พากย์เสียงทับ Reels

Share

Loading

  • Meta ประกาศเพิ่มความสามารถให้ Meta AI ซึ่งดึงความสามารถจากโมเดลล่าสุด Llama 3.2 ที่เปิดตัวไป
  • จุดเด่นก็คือ สามารถคุยเสียงกับ Meta AI ได้แล้ว, จะมีตัวเลือกเสียงคนดัง ที่จะมาเป็น AI อาทิ  จูดี้ เดนช์, จอห์น ซีน่า
  • สามารถ แปลภาษา ฟีเจอร์สำหรับครีเอเตอร์ สามารถแปลและพากย์เสียงทับใน Reels ให้เป็นภาษาอื่นได้ด้วย

Meta ประกาศเพิ่มความสามารถหลายอย่างให้กับบริการ AI ของบริษัท อย่าง Meta AI ซึ่งดึงความสามารถจากโมเดลล่าสุด Llama 3.2 ที่เปิดตัวไป และจุดเด่นก็คือ สามารถคุยเสียงกับ Meta AI ได้แล้ว, จะมีตัวเลือกเสียงคนดัง, สามารถแปลและพากย์เสียงทับใน Reels ให้เป็นภาษาอื่นได้

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Meta ประกาศเพิ่มความสามารถหลายอย่างให้กับบริการ AI ของบริษัท อย่าง Meta AI ซึ่งดึงความสามารถจากโมเดลล่าสุด Llama 3.2 ที่เปิดตัวไป และจุดเด่น หลายๆอย่าง

โดย จุดเด่น ของ Meta AI ซึ่ง ทุกคนในวงการให้ความเห็นไปในทางเดียวกันก็คือ Meta ต้องการที่จะแข่งขัน กับ Microsoft ผู้อยู่เบื้องหลัง OpenAI เจ้าของ ChatGPT  ซึ่ง Meta AI มีรายละเอียดดังนี้

จุดเด่นลูกเล่น  Meta AI
  • สนทนาเสียง สามารถคุยเสียงกับ Meta AI ได้แล้ว โดยระบบจะโต้ตอบกลับมาเป็นเสียงเช่นกัน รองรับทั้ง Messenger, Facebook, WhatsApp และ Instagram DM
  • ตัวเลือกเสียง เลือกต้นฉบับเสียงที่ต้องการได้ ซึ่งมีเสียง AI ของคนมีชื่อเสียงอย่าง Awkwafina, Dame Judi Dench, John Cena, Keegan Michael Key และ Kristen Bell รวมอยู่ด้วย
  • วิเคราะห์รูปภาพ แชทบอตรองรับการให้ข้อมูลจาก Input รูปภาพ และสามารถสั่งแก้ไขรูปภาพได้ด้วย
  • แปลภาษา ฟีเจอร์สำหรับครีเอเตอร์ สามารถแปลและพากย์เสียงทับใน Reels ให้เป็นภาษาอื่นได้ ตอนนี้สถานะทดสอบรองรับการแปลระหว่างภาษาอังกฤษและสเปน
  • Imagine ฟีเจอร์สร้างรูปภาพด้วย AI รองรับการสร้างรูปโดยอิงจากข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งาน เช่น ภาพวาดเหมือน เป็นต้น

ฟีเจอร์ทั้งหมดทยอยอัปเดตให้ผู้ใช้งานในประเทศที่ Meta มีให้บริการ (แต่ ณ ตอนนี้ ยังไม่มีไทย) ซึ่งมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก Mark Zuckerberg CEO ของ Meta  กล่าวในงาน Meta Connect 2024 ว่าเพราะบริการ Meta AI สามารถใช้งานได้ฟรี ทำให้จำนวนผู้ใช้งานรวมตอนนี้ใกล้แตะ 500 ล้านคนแล้ว

การขับเคี่ยวระหว่าง Meta AI VS Open AI

ขณะนี้ Meta กำลังเร่งผลักดันผลิตภัณฑ์ Generative AI หรือปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ให้กับผู้ใช้หลายพันล้านคนทั่วโลก พร้อมกับการแข่งขันกับ Microsoft ผู้อยู่เบื้องหลัง OpenAI เจ้าของ ChatGPT และ Google ของ Alphabet และส่วนหนึ่งของแผนก็คือการเพิ่มความสามารถให้กับแชตบอตและผลักดันให้เป็นส่วนที่โดดเด่นยิ่งขึ้นของประสบการณ์การใช้แอป

ก่อนหน้านี้ OpenAI คู่แข่งของ  Meta AI  ได้สาธิตฟีเจอร์เสียงที่คล้ายกันสำหรับแชตบอตในช่วง พ.ค. 2024 แต่ต้องประสบปัญหาเมื่อนักแสดงสาว สการ์เลต โจแฮนสัน กล่าวหาว่าบริษัทสร้างแชตบอตให้มีเสียงที่ฟังดูคล้ายกับเธอ  แม้ว่าก่อนหน้านี้จะปฏิเสธที่จะให้เสียงของเธอในโครงการนี้แล้วก็ตาม

แหล่งข้อมูล

https://www.springnews.co.th/digital-tech/technology/853067