OMNIA นวัตกรรมกระจกเพื่อสุขภาพอัจฉริยะขุมพลัง AI

Share

Loading

OMNIA นวัตกรรมกระจกเพื่อสุขภาพอัจฉริยะ 360° ขุมพลัง AI ที่หวังเปลี่ยนการดูแลสุขภาพในอนาคตไปตลอดกาล

ในโลกที่การพัฒนาเทคโนโลยีไม่เคยหยุดนิ่ง เรากำลังย่างก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่กระจกไม่ใช่เพียงแค่สิ่งที่ใช้สำหรับการสะท้อนภาพร่างกายอีกต่อไป แต่มันจะกลายเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่ช่วยดูแลสุขภาพแบบครบวงจร ด้วยการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเซ็นเซอร์ขั้นสูงในการวิเคราะห์สุขภาพของเราอย่างละเอียดและแม่นยำ ซึ่ง OMNIA คือ ว่าที่สุดยอดนวัตกรรมที่ผสานเทคโนโลยีนี้เข้าไปในกระจกอัจฉริยะแบบ 360° ที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการดูแลสุขภาพส่วนบุคคลไปตลอดกาล

OMNIA คือกระจกเพื่อสุขภาพอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการสแกนและประเมินสุขภาพอย่างครบวงจร 360° โดยอุปกรณ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่กระจกธรรมดา แต่ยังเปรียบเสมือนเครื่องมือแพทย์ที่สามารถตรวจวัดข้อมูลด้านสุขภาพที่สำคัญ เช่น สุขภาพหัวใจ ปอด การนอนหลับ สัดส่วนร่างกาย และองค์ประกอบเมตาบอลิซึม (Metabolic Composition)

OMNIA ใช้เซ็นเซอร์ขั้นสูงและเทคโนโลยี AI ที่สามารถประมวลผลข้อมูลสุขภาพจากร่างกายของผู้ใช้งานได้ในทันที โดยการทำงานแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก คือ

1.การสแกนแบบ 360° ด้วยเซ็นเซอร์ขั้นสูง

OMNIA สามารถตรวจจับข้อมูลร่างกายได้หลากหลายมิติ เช่น ความหนาแน่นของกล้ามเนื้อ อัตราการเต้นของหัวใจ ระดับออกซิเจนในเลือด และองค์ประกอบไขมันในร่างกาย ด้วยเซ็นเซอร์ภาพ 3D และเทคโนโลยีการวิเคราะห์แบบล้ำสมัย ทำให้สามารถสร้างภาพรวมของสุขภาพได้อย่างละเอียด

2.การวิเคราะห์ด้วย AI

หลังจากการเก็บข้อมูล เทคโนโลยี AI จะประมวลผลข้อมูลเชิงลึก เช่น การวิเคราะห์ความเสี่ยงโรคหัวใจ ความผิดปกติในการหายใจระหว่างนอนหลับ หรือความสมดุลของฮอร์โมน AI ยังสามารถเรียนรู้และปรับตัวตามข้อมูลสุขภาพของผู้ใช้ในระยะยาว

3.การให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์

OMNIA สามารถแนะนำการปรับพฤติกรรม เช่น การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการออกกำลังกายหรือโภชนาการ เพื่อปรับปรุงสุขภาพ และยังสามารถเชื่อมต่อกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพผ่านระบบ Telehealth ได้ 

คุณสมบัติเด่นของ OMNIA คือ การตรวจสุขภาพหัวใจและปอด โดยสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การทำงานของปอด และระดับออกซิเจนในเลือด ซึ่งช่วยคาดการณ์ความเสี่ยงของโรคหัวใจและปอด รวมถึงวิเคราะห์การนอนหลับ (Sleep Analytics) ด้วยระบบ AI ที่ตรวจจับการเคลื่อนไหวและการหายใจ OMNIA สามารถประเมินคุณภาพการนอนหลับและแนะนำวิธีปรับปรุงการนอน ทั้งยังช่วยวิเคราะห์อัตราส่วนไขมัน กล้ามเนื้อ และมวลกระดูกในร่างกาย เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจความสมดุลทางสุขภาพ  ขณะเดียวกันก็มีการเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพแบบครบวงจร โดยสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันมือถือหรืออุปกรณ์ IoT อื่นๆ ทำให้ข้อมูลสุขภาพสามารถถูกจัดเก็บและวิเคราะห์ได้อย่างต่อเนื่อง

ประโยชน์ของ OMNIA ต่อสุขภาพผู้ใช้งาน คือช่วยส่งเสริมการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เพราะไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์ตรวจสุขภาพ แต่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่ช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพที่ดี

และยังช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง จากการตรวจวัดสุขภาพอย่างต่อเนื่องช่วยให้ผู้ใช้สามารถป้องกันโรคหัวใจ เบาหวาน หรือความผิดปกติของการเผาผลาญได้ก่อนที่จะเกิดอาการ ที่สำคัญยังช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย จากความสามารถในการสแกนสุขภาพที่บ้าน OMNIA ช่วยลดความจำเป็นในการไปโรงพยาบาลบ่อยครั้ง

OMNIA สะท้อนถึงแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของการใช้ AI ในการดูแลสุขภาพส่วนบุคคล การพัฒนาอุปกรณ์เช่นนี้ไม่เพียงช่วยให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องง่ายขึ้น แต่ยังสร้างโอกาสให้ผู้คนสามารถวางแผนสุขภาพในระยะยาว

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ OMNIA คือการรวมเอาเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพที่หลากหลายมาประสานเข้าด้วยกันในแพ็กเกจเดียวอย่างชาญฉลาดนั่นก็คือ กระจกอัจฉริยะที่สามารถแสดงข้อมูลสุขภาพ โทรวิดีโอ และการให้คำแนะนำด้วยเสียงในระหว่างการตรวจสุขภาพ ได้อาจดูไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ OMNIA กลับเพิ่มมิติที่ไม่เคยมีใครทำสำเร็จ ด้วยการเปลี่ยนกระจกธรรมดาให้กลายเป็นศูนย์รวมเทคโนโลยีสุขภาพครบวงจร 

จากสินค้าที่เคยล้มเหลว สู่การบูรณาการเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำหน้า

กระจกอัจฉริยะอาจฟังดูคล้ายแนวคิดที่เคยมีมาก่อน เช่น Mirror ของ Lululemon หรือผลิตภัณฑ์เลียนแบบอื่นๆ ที่ล้มเหลวในตลาด รวมถึงเครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะที่ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจและองค์ประกอบร่างกายซึ่งมีมานาน แต่ OMNIA ก้าวไปอีกขั้นด้วยการนำเอา AI-powered health bot ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นในปี 2024 มารวมเข้าด้วยกัน องค์ประกอบนี้ยังเป็นแนวทางที่ผู้เล่นระดับโลกอย่าง Oura, Whoop และ Fitbit ต่างพยายามพัฒนา

สิ่งที่ทำให้ OMNIA แตกต่างคือการรวบรวมเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพหลากหลายประเภทมาไว้ในระบบเดียวอย่างชาญฉลาด ไม่ได้สักแต่เอามารวมไว้ด้วยกันเฉยๆ โดยพัฒนาต่อยอดจากผลิตภัณฑ์ในอดีตของ Withings ผู้นำด้านเทคโนโลยีสุขภาพที่เคยสร้างสรรค์นาฬิกาอัจฉริยะ เครื่องชั่งน้ำหนัก เทอร์โมมิเตอร์ และอุปกรณ์ติดตามการนอนหลับ ด้วยการผสานเทคโนโลยีเหล่านี้ OMNIA จึงเปรียบเสมือนการสร้าง “ระบบนิเวศสุขภาพครบวงจร”

OMNIA คือผลิตภัณฑ์แนวคิดพิเศษที่พัฒนาโดย Withings และผลิตขึ้นเป็นพิเศษสำหรับงาน CES 2025 ออกแบบมาเพื่อจัดแสดงนวัตกรรมด้านสุขภาพในปัจจุบันของเรา พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้กับความเป็นไปได้ในอนาคตในการติดตามสุขภาพส่วนบุคคล

แม้ OMNIA จะได้รับความสนใจอย่างมากในการเปิดตัวที่งาน CES 2025 แต่ยังไม่ได้เปิดตัวในเชิงพาณิชย์ โดย Withings ได้กล่าวไว้ชัดเจนว่า ผลิตภัณฑ์ยังอยู่ในขั้นตอนพัฒนา และยังไม่มีการกำหนดเวลาจำหน่ายหรือราคาที่แน่ชัด แต่เมื่อพิจารณาจากประวัติของ Withings ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ก้าวล้ำในตลาด มีทั้งความเป็นไปได้ว่า OMNIA อาจใช้เวลานานกว่าจะพร้อมสำหรับการใช้งานจริง หรืออาจเป็นเพียงโปรเจกต์ที่สะท้อนวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่ของบริษัท 

OMNIA กับอนาคตของการดูแลสุขภาพส่วนบุคคล

แนวคิดของ OMNIA สะท้อนถึงอนาคตที่การดูแลสุขภาพส่วนบุคคลไม่ใช่เรื่องซับซ้อนหรือสงวนไว้ในโรงพยาบาลอีกต่อไป และแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมสุขภาพ

ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องง่าย สะดวก และแม่นยำ กำลังสร้างนิยามใหม่ให้กับการดูแลตนเอง เพราะ OMNIA ไม่เพียงแต่เป็นอุปกรณ์ตรวจสุขภาพ แต่คือผู้ช่วยส่วนตัวที่ช่วยให้เราเข้าใจและปรับปรุงสุขภาพตัวเองในทุกมิติ

นี่จึงอาจเป็นก้าวสำคัญในการกำหนดอนาคตของเทคโนโลยีสุขภาพที่พร้อมเปลี่ยนชีวิตของผู้คนทั่วโลก 

ในแง่ของความน่าเชื่อถือของเทคโนโลยี OMNIA ได้รับการพัฒนาโดย Withings ซึ่งเป็นผู้นำในเทคโนโลยีสุขภาพ ทำให้อุปกรณ์นี้เป็นที่จับตามองในอุตสาหกรรมสุขภาพตั้งแต่ยังเป็น Conceptual product กระนั้น หากพัฒนาสู่เชิงพาณิชย์จริงๆ ก็ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว เพราะแม้ว่า OMNIA จะมีความสามารถสูงในการจัดเก็บข้อมูลสุขภาพ แต่ผู้ใช้งานควรตรวจสอบมาตรการด้านความปลอดภัยของข้อมูล เช่น การเข้ารหัสและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งนี้ งาน CES 2025 (Consumer Electronics Show 2025) จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 7-10 มกราคม 2025 ที่เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา งานนี้เป็นเวทีสำคัญที่ผู้ผลิตและบริษัทจากทั่วโลกจะมาเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ในด้านอิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยี, และผลิตภัณฑ์อัจฉริยะ เช่น อุปกรณ์สวมใส่, ระบบการขนส่ง, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), หุ่นยนต์, การเชื่อมต่อ 5G, และอีกมากมาย CES จึงถือเป็นงานที่สำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับผู้บริโภคและอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

สำหรับ Withings เป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านสุขภาพสัญชาติฝรั่งเศส ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 โดย Éric Carreel และ Cédric Hutchings มีเป้าหมายในการเชื่อมโยงเทคโนโลยีกับการดูแลสุขภาพส่วนบุคคล บริษัทเริ่มสร้างชื่อด้วยการเปิดตัว Wi-Fi Body Scale ในปี 2009 ซึ่งเป็นเครื่องชั่งน้ำหนักที่สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi และบันทึกข้อมูลน้ำหนักรวมถึงดัชนีมวลกาย (BMI) โดยอัตโนมัติ ถือเป็นผลิตภัณฑ์แรกในกลุ่ม อุปกรณ์สุขภาพอัจฉริยะ

หลังจากนั้น Withings ได้ขยายผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เช่น นาฬิกาอัจฉริยะ ScanWatch ที่สามารถติดตามการเต้นของหัวใจ วิเคราะห์การนอนหลับ และตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ รวมถึงเครื่องวัดความดันโลหิตและเครื่องวัดอุณหภูมิ Thermo ที่ได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่ายและตอบโจทย์การดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวัน

ในปี 2016 Withings ถูกซื้อกิจการโดย Nokia และเปลี่ยนชื่อเป็น Nokia Health แต่ในปี 2018 Éric Carreel ได้ซื้อบริษัทกลับคืนมาและนำชื่อ Withings กลับมาใช้อีกครั้ง พร้อมทั้งกลับมามุ่งเน้นพัฒนาอุปกรณ์เพื่อสุขภาพที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้อย่างรอบด้าน

Withings ยังพัฒนาแอปพลิเคชัน Health Mate ที่ช่วยรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากอุปกรณ์ทั้งหมด เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดตามพฤติกรรมสุขภาพและตั้งเป้าหมายในการปรับปรุงคุณภาพชีวิต

ปัจจุบัน Withings ยังคงพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน รวมถึงล่าสุดกับการเปิดตัว OMNIA ดังที่กล่าวมาซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อช่วยวิเคราะห์สุขภาพแบบองค์รวม ด้วยความตั้งใจที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ

แหล่งข้อมูล

https://www.salika.co/2025/01/09/omnia-ai-health-mirror/