จับตานโยบายทีม “ภูเก็ตหยัดได้” ปั้นเมือง “น่าอยู่และน่าดู” ต่อไปอย่างไร?

Share

Loading

“เรวัต อารีรอบ” อาสานำทีม “กลุ่มภูเก็ตหยัดได้” ลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ภูเก็ต ชิงชัยต่อเป็นสมัยที่สองในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ให้คนภูเก็ต “หยัดได้” (เชื่อถือได้) สานต่องานเก่าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายปั้นภูเก็ตให้เป็นเมืองน่าอยู่และเป็นเมืองน่าดู

วิสัยทัศน์ “ภูเก็ต ปลอดภัย ทันสมัยด้วยเศรษฐกิจสร้างสรรค์”

ตลอดระยะเวลาสี่ปีของ นายเรวัต อารีรอบ และ “กลุ่มภูเก็ตหยัดได้” นั้นโฟกัสกับยุทธศาสตร์ที่ต้องการปั้นให้ภูเก็ตพร้อมในหลากหลายมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา สาธารณสุข และคุณภาพชีวิต รวมทั้งตอบโจทย์ทางด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนด้วย โดยเฉพาะการเร่งเครื่องหลังวิกฤติโตวิด-19 คลี่คลาย

นายเรวัตยอมรับว่า “ในช่วง 2 ปีแรกของการรับตำแหน่งนายก อบจ. ภูเก็ต ในปี 2564 นั้นเป็นช่วงวิกฤติโควิด-19 ต่อเนื่องถึงปี 2565 ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะงักงัน ไม่เว้นแม้แต่ภูเก็ต ทั้งนี้ อบจ. ภูเก็ตได้ดำเนินกลยุทธ์ทั้งเชิงรับและเชิงรุก เพื่อรับมือกับวิกฤติโควิด-19 อาทิ การจัดตั้งศูนย์ Quarantine โรงพยาบาลสนาม จัดหาวัคซีนให้ชาวกูก็ตอย่างทั่วถึง ฯลฯ”

ทั้งนี้ เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายในช่วงปี 2566 – ปี 2567 อบจ. ภูเก็ตก็เร่งดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนให้กลับมาเป็นปกติสุขโดยเร็ว และเป็นจิ๊กซอว์ที่ นายเรวัต มุ่งมั่นที่จะพิชิตเป้าหมาย เพื่อให้ภูเก็ตเป็น “เมืองน่าอยู่” และเป็น “เมืองน่าดู” นั่นคือ

ด้านเศรษฐกิจ ในฐานะที่ภูเก็ตสามารถทำรายได้ให้กับประเทศได้สูงเป็นอันดับ 2 ฉะนั้น หลังวิกฤติโควิด-19 อบจ. ภูเก็ตจึงร่วมผลักดันโครงการ Phuket Sandbox ส่งผลให้ภูเก็ตสามารถฟื้นตัวได้เร็ว ขณะเดียวกัน ก็ดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง เช่น ทำโรดโชว์ ITB Berlin ที่ประเทศเยอรมนีที่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาเที่ยวภูเก็ตดังเดิม นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรมกระตุ้นการใช้จ่ายภายในจังหวัดภูเก็ต เช่น การจัดงานหรอยรอยริมเล ทั่วเกาะภูเก็ต พร้อมผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จัดตั้ง TCDC ศูนย์ความรู้ด้านการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ จังหวัดภูเก็ต

ด้านการศึกษา อบจ. ภูเก็ต มุ่งเน้นพัฒนาเยาวชนให้เติบโตไปเป็นพลเมืองโลก (Global Citizen) พร้อมทั้งพัฒนาโรงเรียนในสังกัด อบจ. ภูเก็ตทั้ง 5 แห่งให้เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัย – ม.6 เพื่อลดความเหลือมล้ำทางการศึกษา โดยมุ่งพัฒนาศักยภาพผู้เรียน ทั้งด้านวิชาการ สังคม และทักษะชีวิต พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพครูให้เป็นผู้ส่งเสริมการเรียนรู้ให้เด็กตามวัยสำหรับโรงเรียนในสังกัด อบจ. ภูเก็ต พร้อมสนับสนุนงบประมาณให้แก่โรงเรียนสังกัด สพฐ. เพื่อพัฒนาอาคารสถานที่ จัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ สำหรับส่งเสริมการเรียนรู้ ยกระดับมาตรฐานการศึกษาของจังหวัดภูเก็ตในภาพรวม

ด้านคุณภาพชีวิต อบจ. ภูเก็ตได้พัฒนาสวนสาธารณะแห่งใหม่ โดยพัฒนาพื้นที่เรือนจำเก่าจังหวัด

ในเดือน ธ.ค.2567 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งมีแผนพัฒนาพื้นที่ทุ่งถลางชนะศึก อ. ถลาง ซึ่งอยู่ระหว่างการออกแบบ จะแล้วเสร็จในเดือน ก.พ.2568 ขณะที่สวนธารณะลานกีฬากะทู้ โรงเหล้าเก่า ซึ่งเข้าไปพัฒนาจนถึงเฟสที่ 4 แล้ว เพื่อเป็นเพิ่มพื้นที่สีเขียว และเพิ่มพื้นที่ออกกำลังกายให้ชาวภูเก็ต รวมทั้งรับมือกับ “การแก้ไขปัญหาจราจร” ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ชาวภูเก็ตกำลังเผชิญอยู่ ณ ตอนนี้ ซึ่งเป็นความเดือดร้อนเร่งด่วนของชาวภูเก็ต โดยการนำรถบัส EV รถไฟฟ้าพลังงานสะอาดช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมมาให้บริการประชาชน ให้เด็กนักเรียน นักศึกษา ประชาชนคนทำงาน ผู้สูงอายุ หรือนักท่องเที่ยวสามารถใช้ขนสาธารณะได้สะดวกยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ นายเรวัต ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตในเรื่องของพิบัติว่า  “เพื่อป้องกันภัยพิบัติร้ายแรงในภูเก็ต อาทิ น้ำท่วม ดินถล่ม ชาวภูเก็ตมั่นใจได้ว่า จะต้องเห็นผม และทีมงาน อบจ. ภูเก็ต เข้าไปช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนอย่างทันท่วงที เพราะนี่คือการกิจหลักที่ อบจ. ภูเก็ตจัดตั้งกองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขึ้นมา นอกจากนี้ ยังมีแผนจัดหาเรือดับเพลิงกู้ภัย เรือตรวจการณ์ เครื่องจักรกลหนัก เครื่องสูบน้ำ และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติทั้งทางบกและทางน้ำ อย่างล่าสุดที่เกิดเหตุน้ำท่วมหลายพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต เครื่องสูบน้ำของ อบจ. ภูเก็ตได้กระจายไปยังจุดเสี่ยงน้ำท่วมทั่วจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้มีส่วนช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน เป็นที่พึ่งที่ “หยัดได้”ของชาวภูเก็ตตลอดมา”

แหล่งข้อมูล

https://www.posttoday.com/smart-city/718170