นักจิตบำบัดยุคใหม่? เมื่อคนหันมาใช้ ChatGPT เป็นเพื่อนเยียวยามากขึ้น

Share

Loading

นักจิตบำบัดยุคใหม่? เมื่อคนหันมาใช้ ChatGPT เป็นเพื่อนเยียวยามากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดส่วนบุคคล ในการเข้าบำบัด

จากบทความเรื่อง ‘People Are Using ChatGPT For Therapy. Here’s What Mental Health Experts Think About That’ ได้เขียนรายงานไว้ว่า ผู้คนทั่วโลกเกือบ 1,000 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 10 มีปัญหาสุขภาพจิต แต่คนที่สามารถเข้าถึงการรักษาที่เหมาะสมและคุ้มราคากลับมีสัดส่วนที่น้อยกว่า เนื่องจากเงื่อนไขด้านงบประมาณ การเดินทาง หรือปัญหาส่วนตัวอื่นๆ แตกต่างกันไปตามบุคคล

สิ่งที่น่าสนใจคือ ช่วงหลังมานี้เทรนด์การใช้ Chatbot อย่าง ChatGPT เพื่อช่วยในเรื่องสุขภาพจิตเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เพราะปรึกษาได้ฟรี เข้าใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา อีกทั้งยังรู้สึกสบายใจกว่า เนื่องจากผู้ปรึกษารู้สึกว่าการพูดคุยกับ Chatbot นั้นสะดวกกว่าการเปิดใจคุยกับคนจริงๆ

รีวิวบางส่วนจากผู้ใช้งานเว็บไซต์ Reddit เล่าว่า ในฐานะคนที่เคยใช้บริการด้านสุขภาพจิตมาหลายที่ เขาพบว่า ChatGPT ช่วยได้มากกว่าหลายคนที่เคยคุยด้วย อีกทั้งยังกล่าวว่า “ปกติการทำคอร์สโค้ชชิงหรือบำบัดมีราคาแพงมาก แต่ ChatGPT ใช้ฟรี แน่นอนมันไม่สามารถทดแทนผู้เชี่ยวชาญได้ แต่มันก็ทำได้ดีไม่น้อยเลย” จากการรีวิวข้างต้น จึงอาจกล่าวได้ว่า ช่องทางนี้เปรียบเสมือนนักจิตบำบัดเคลื่อนที่ ที่ทั้งสะดวก มีประสิทธิภาพไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม แม้การใช้งานเทคโนโลยี AI Chatbot เพื่อปรึกษาหรือพูดคุยอาจทำให้รู้สึกดีขึ้นได้ในเบื้องต้น แต่อย่าลืมคำนึงถึงประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน เพราะในส่วนของคำถามหรือคำตอบอาจไม่ได้เฉพาะเจาะจงตามแต่ละบุคคลได้มากเท่ากับการปรึกษานักจิตบำบัดจริงๆ ที่จะมีความเชี่ยวชาญในด้านของการรับมือกับอารมณ์ที่ซับซ้อนได้มากกว่า

ดังนั้น AI Chatbot อาจตอบโจทย์ในการรับปรึกษาปัญหาพร้อมทั้งหาแนวทางแก้ไขในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่หากเป็นปัญหาเรื้อรัง ปัญหาสะสม หรือรู้สึกว่าได้พูดคุยแล้วยังไม่ดีขึ้น แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เฉพาะทางอย่างเหมาะสม จะช่วยจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างละเอียดอ่อนและเกิดประสิทธิภาพมากกว่า

แหล่งข้อมูล

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1178593090495692&set=a.811136580574680